image

WAT PORTAL

วัดสุวรรณาราม
วัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร หรือนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า วัดสุวรรณาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ปัจจุบันตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 32 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงข้ามกับแยกบางขุนนนท์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย โดยติดอยู่ริมคลองบางกอกน้อยฝั่งตะวันตก
ข้อมูลทั่วไป
  • ชื่อ : วัดสุวรรณาราม
  • ที่ตั้ง : แขวงศิริราช เขตเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
  • นิกาย : มหานิกาย
  • ชนิด : วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
  • ประเภทวัด : พระอารามหลวง
  • วัน - เวลาเปิด :
    วันอาทิตย์
    : 08:00 - 17:00
    วันจันทร์
    : 08:00 - 17:00
    วันอังคาร
    : 08:00 - 17:00
    วันพุธ
    : 08:00 - 17:00
    วันพฤหัสบดี
    : 08:00 - 17:00
    วันศุกร์
    : 08:00 - 17:00
    วันเสาร์
    : 08:00 - 17:00

 

ประวัติ
วัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ วัดทอง ลักษณะเป็นลานกว้างขวาง ในสมัยกรุงธนบุรีเป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมีพระราชดำรัสให้นำเชลยศึกพม่าจากค่ายบางแก้วไปประหารชีวิต ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ทรงรับมาอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์และสถาปนาขึ้นใหม่ทั้งพระอารามและพระราชทานนามว่า "วัดสุวรรณาราม" ทั้งนี้เนื่องจากพระองค์มีพระนามเดิมว่า "ทองด้วง" เช่นเดียวกับชื่อวัด นอกจากนี้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท มีพระราชศรัทธาสร้างเมรุหลวงสำหรับใช้ในการพระราชทานเพลิงศพเจ้านายและขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งตามประเพณีต้องนำไปฌาปนกิจนอกกำแพงพระนครชั้นนอก เมรุหลวงนี้ใช้มาจนถึงในสมัยรัชกาลที่ 5
ในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดสุวรรณารามและให้ช่างเขียนภาพฝาผนังในพระอุโบสถด้วย มีงานของหลวงวิจิตรเจษฎา (ทองอยู่) ผู้เขียนเนมิราชชาดก กับหลวงเสนีย์บริรักษ์ (คงแป๊ะ) ผู้เขียนมโหสถชาดก ซึ่งเป็นจิตรกรขึ้นชื่อในยุคนั้นทั้งคู่ โดยทั้งคู่เขียนด้วยการประชันกัน โดยใช้ผ้าคลุมและเปิดออกเผยให้เห็นเมื่องานเสร็จแล้ว นับเป็นจิตรกรรมฝาผนังในยุครัตนโกสินทร์ที่สวยงาม มีความละเอียดอ่อนของลายเส้นและรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ และมีความสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย 


สถาปัตยกรรมและศิลปกรรม
ทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม พระอุโบสถ สร้างตามแบบแผนศิลปกรรมสมัยรัชกาลที่ 1 มีเสาทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง มีระเบียงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่อฟ้าใบระกาประดับกระจก หน้าบันจำหลักลายรูปเทพนมและรูปนารายณ์ทรงครุฑปิดทอง สถาปัตยกรรมอื่นๆ ภายในวัดได้แก่ พระวิหารสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งมีมุขขวางทั้งด้านหน้าและด้านหลังกับหมู่กุฏิสงฆ์ที่เป็นเรือนไม้ฝาปะกน เก่าแก่และงดงามมาก หมู่กุฏิสงฆ์ เป็นหมู่ตึก 6 หลัง มีหอฉันอยู่กลางและมีหอเล็กติดกำแพง 2 หอพร้อมทั้งหอระฆังและหอไตร
ภายในพระอุโบสถ นอกจากภาพจิตรกรรมฝาผนังแล้วยังเป็นที่ประดิษฐานของพระศาสดา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย ฝีมือช่างเดียวกันกับพระศรีศากยมุนีที่วัดสุทัศน์ (ฝีมือช่างสุโขทัยมีนามว่า "พระศาสดา") สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปที่เชิญมาแต่กรุงสุโขทัยในสมัยรัชกาลที่ 1 มีความเชื่อและความศรัทธาในพระศาสดาว่า มีความศักดิ์สิทธิ์และดลบันดาลให้สมประสงค์ได้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเกณฑ์ทหาร ผู้คนจึงนิยมมาแก้บนด้วยการนำผ้าขาวม้ามาผูกเอวและวิ่งวนรอบพระอุโบสถ 3 รอบ พร้อมกับส่งเสียงเหมือนม้าร้องไปด้วย เรียกว่า "วิ่งม้า" เนื่องจากมีเรื่องเล่าว่าในอดีต มีผู้พบเห็นม้าสีขาวตัวหนึ่งวิ่งวนรอบพระอุโบสถ จึงเชื่อกันว่าพระศาสดาคงโปรดม้า 


ลำดับเจ้าอาวาส

  1. พระธรรมเจดีย์    
  2. พระธรรมกิตติ     
  3. พระญาณสมโพธิ     
  4. พระเทพมุนี (กัน)    ?  -  พ.ศ. 2410
  5. พระธรรมธราจารย์ (ด้วง)    พ.ศ. 2410  -  พ.ศ. 2413
  6. พระธรรมธราจารย์ (นาค)    พ.ศ. 2413  -  พ.ศ. 2416
  7. พระศีลาจารพิพัฒ (ศรี)    พ.ศ. 2417 -   พ.ศ. 2439
  8. พระครุปัญญาวิมล (เนียม)    พ.ศ. 2439  -  พ.ศ. 2441
  9. พระครูเทพสิทธิเทพาธิบดี (ทับ อินฺทโชโต)    พ.ศ. 2441  -  พ.ศ. 2455
  10. พระครูสังวราธิคุณ (เทศ)    พ.ศ. 2458  -  พ.ศ. 2463
  11. พระสาธุศีลสังวร (เผื่อน อุคฺคเสโน)    พ.ศ. 2465   - พ.ศ. 2466
  12. พระครูเทพสิทธิเทพาธิบดี (ผัน จนฺทโชโต)    พ.ศ. 2470  -  พ.ศ. 2501
  13. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พุฒ สุวฑฺฒโน)    พ.ศ. 2502 -  พ.ศ. 2553
  14. พระราชปริยัติโมลี (ไพบูลย์ วิปุโล)    พ.ศ. 2554  -  พ.ศ. 2556
  15. พระเทพสุวรรณเมธี (สุชาติ กิตฺติปญฺโญ)    พ.ศ. 2556  -  ปัจจุบัน


เรื่องเล่าลือ
นอกจากนี้แล้ว ยังมีเรื่องเล่าลือกันว่าที่วัดแห่งนี้มีผีสิง ด้วยเป็นดวงวิญญาณของทหารพม่าที่ถูกประหารชีวิตจำนวนมากในสมัยกรุงธนบุรี ครั้งหนึ่งมีการบูรณะโรงเรียนวัดสุวรรณาราม ซึ่งเป็นที่ดินส่วนหนึ่งของวัด มีการขุดพบโครงกระดูกที่ข้อแขนหรือข้อขามีกำไลนากสวมอยู่ นักการภารโรงผู้หนึ่งพบเข้าจึงแอบหยิบกลับมาและนำไปขายต่อ ได้เงินมาซื้ออาหารจำนวนมากเลี้ยงภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ตกดึกคืนนั้นภรรยาของภารโรงผู้นี้ก็ฝันเห็นทหารพม่ามาทวงกำไลคืน จึงเล่าให้ผู้เป็นสามีฟัง แต่ภารโรงก็ไม่รู้จะไปหาคืนมาได้อย่างไรเพราะได้ขายต่อไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน ภรรยาที่ตั้งครรภ์อยู่นั้นก็เสียชีวิต และไม่นาน ภารโรงก็เสียชีวิตตามไปด้วย ผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้จึงมีความหวาดกลัว และได้ตั้งศาลบูชาขึ้นมาให้เป็นที่สิงสถิตย์ของเหล่าดวงวิญญาณทหารพม่า และได้ตั้งอีกศาลหนึ่งขึ้นมาซึ่งภายในเป็นรูปวาดของทหารไทยโบราณ 3 นาย เรียกว่า "ศาลเสด็จพ่อสามพระยา" ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นนายทหารผู้ที่ควบคุมเชลยศึกพม่ามาแต่ครั้งนั้น เพื่อให้ควบคุมเหล่าดวงวิญญาณทหารพม่าอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันศาลทั้ง 2 อยู่ในบริเวณลานโรงเรียนวัดสุวรรณาราม นอกจากนี้แล้วยังมีผู้พบเห็นผีหรือดวงวิญญาณหลายต่อหลายครั้ง เช่น ปรากฏมาในรูปของผีหัวขาด, เป็นผู้หญิงนั่งห้อยขาอยู่ริมน้ำ หรือเปรตบนหอระฆัง เป็นต้น 


สถานที่ใกล้เคียง

  1. สำนักงานเขตบางกอกน้อย
  2. โรงเรียนวัดสุวรรณาราม
  3. ชุมชนบ้านบุ
  4. ตลาดไร้คาน หรือ ตลาดวัดทอง


ขอขอบคุณที่มาข้อมูลจาก : เว็บไซต์ https://th.wikipedia.org/wiki/วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร